เชื่อว่าคนส่วนใหญ่รู้จักปลาสลิดกันในรูปแบบปลาแดดเดียวที่ถูกตัดหัวมาแล้ววางเรียงรายขายกันอยู่ หลายคนเติบโตจนเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ยังไม่เคยเห็นหัวปลาสลิดเลยแม้แต่ครั้งเดียวจนทำให้เกิดข้อสงสัยกันได้ว่า ทำไมการทำปลา สลิดแดดเดียวจึงต้องตัดหัวปลาออกด้วย วันนี้เราจะพาทุกท่านมาไขข้อสงสัยกันค่ะ
ทำปลา สลิดแดดเดียวทำไมต้องตัดหัวปลา?
มีปลาหลายชนิดที่สามารถนำมาทำปลาแดดเดียวได้ทั้งตัว โดยไม่ต้องขอดเกล็ด ควักไส้และตัดหัว จุดเด่นของปลาเหล่านี้มักจะเป็นปลาที่มีขนาดเล็กหรือลำตัวค่อนข้างบาง กระดูกหัวปลาไม่แข็งหรือเหนียวเกินไป เวลาปรุงอาหารอาจยังสามารถทานบางส่วนของหัวได้ เช่น ปลาซิว ปลาสร้อย ปลากระดี่ ปลาลิ้นหมา เป็นต้น เมื่อนำปลากลุ่มนี้ไปทำปลาแดดเดียวหรือปลาแห้ง จะสามารถทำได้โดยไม่ต้องกังวลว่าปลาจะมีกลิ่นเหม็นตุ แตกต่างกับปลาสลิด ถึงแม้ปลาสลิดแดดเดียวที่เห็นกันทั่วไปจะดูเหมือนมีลำตัวค่อนข้างบาง แต่อันที่จริง สลิดเป็นปลาที่ค่อนข้างอวบอ้วนพอสมควร หัวใหญ่และแข็ง ไม่มีเนื้อ กินไม่ได้ ที่สำคัญปลาสลิดยังมีไขมันอยู่ตรงท้องจำนวนมาก หากไม่ตัดหัวทิ้งจะควักไส้ออกลำบาก ตากแดดแล้วจะไม่แห้งสนิทและมีกลิ่นเหม็นเน่าได้ง่าย หากไม่ตัดหัวผ่าท้องก็จะคลุกเคล้าเกลือได้ไม่ทั่วถึง จะส่งผลต่อรสชาติและกลิ่นด้วย อีกทั้งเหงือกปลาที่เป็นโพรงยังยากต่อการทำความสะอาด อาจมีเศษดินโคลนหรือสิ่งสกปรกเกาะอยู่ในเหงือกได้ เพราะฉะนั้นเพื่อให้ได้ปลาสลิดแดดเดียวคุณภาพดี รสชาติอร่อย ไม่เหม็นตุหรือเหม็นเน่าและเก็บรักษาได้ยาวนาน การตัดหัวออกจึงเป็นหนึ่งในกรรมวิธีที่ต้องทำนั่นเอง
เมื่ออ่านกันจนจบแล้วก็หวังว่าข้อมูลจากบทความนี้จะช่วยคลายข้อสงสัยของใครหลายๆคนได้ เพราะนอกจากปลาสลิดแล้ว การทำปลาแดดเดียวหากใช้ปลาที่มีขนาดใหญ่มาทำก็มักจะต้องตัดหัวเช่นเดียวกัน หากไม่ตัดหัวก็ต้องแล่ผ่ากลางตลอดตั้งแต่หัวจรดหางด้วยเหตุผลเดียวกัน เพราะจะล้างทำความสะอาดได้ง่าย ตากได้แห้งสนิท ไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์และเก็บรักษาได้ยาวนาน ต่อไปใครไปซื้อปลา สลิดแดดเดียวมาทานคงไม่สงสัยเรื่องหัวปลาสลิดกันอีกต่อไปแล้วนะคะ